หัวข้อสารนิพนธ์: Project Title: |
การใช้เทคนิค Transition Systems เพื่อวิเคราะห์และศึกษาขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาล Using Transition Systems and Regions to Analyze and Monitor Admission Procedures of a Hospital |
ชื่อนักศึกษา: Author: |
นายธเนศ เมตติยาภรณ์ Mr. Thanet Mettiyaporn |
อาจารย์ที่ปรึกษา: Advisor: |
รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร เปรมชัยสวัสดิ์ Assoc. Prof. Dr. Wichian Premchaiswadi |
ระดับการศึกษา: Degree: |
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) Master of Science |
สาขาวิชา: Major: |
เทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology |
คณะ: Faculty: |
บัณฑิตวิทยาลัย Graduate Schools |
ปีการศึกษา: Academic year: |
2560 2017 |
การอ้างอิง|Citation
ธเนศ เมตติยาภรณ์. (2560). การใช้เทคนิค Transition Systems เพื่อวิเคราะห์และศึกษาขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาล. (การค้นคว้าอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม.
Mettiyaporn T. (2017). Using transition systems and regions to analyze and monitor admission procedures of a hospital. (Master’s independent study). Bangkok: Graduate Schools, Siam University.
บทคัดย่อ
สารนิพนธ์ฉบับนี้นำเสนอการค้นหาโครงสร้างกระบวนการการทางานที่เกิดขึ้นด้วยข้อมูลที่จัดเก็บในแฟ้มประวัติบันทึกเหตุการณ์ของระบบสารสนเทศเกี่ยวกับการรักษาของโรงพยาบาลโดยใช้ Model Mine Transition Systemในการเปรียบเทียบกระบวนการทำงานปกติกับรูปแบบการทำงานที่เกิดขึ้นจริงจากแฟ้มบันทึกเหตุการณ์ซึ่งทำให้ทราบถึงกระบวนการใดที่มีความสาคัญ และพบประเด็นกระบวนการทำงานที่แตกต่างจากการทำงานปกติ สามารถนำมาแนวทางปรับปรุง หรือพัฒนากระบวนการการทำงานให้มีความสอดคล้องกับการทำงานให้ดีที่สุด และในงานวิจัยนี้ผู้วิจัยพบว่า Work Flow การทำงานที่ได้ออกแบบไว้ในปัจจุบัน ไม่ตรงกับ Work Flow ที่เกิดขึ้นจากการบันทึกของแฟ้มประวัติบันทึกเหตุการณ์ของระบบสารสนเทศ จึงได้แนวคิดในการปรับปรุง Work Flow เพื่อให้สามารถช่วยลดช่วงระยะเวลาการรอพบแพทย์ และการชำระเงินก่อนรับยา ทำให้สามารถลดปริมาณผู้ป่วยที่อยู่ในกระบวนการการรักษา
Abstract
This research applies process mining process discovery on a set of event logs previously collected and recorded using an Information System. The event logs contain information about patients, date/time of the treatment, medical procedures, responsible staff, and other additional attributes. Therefore, the main goal of this research is to verify the extent of conformity (as well as accuracy) of the resulting process workflow (model) through the Mine Transition Systems technique while comparing it with the actual activities recorded in the log file. Subsequently, after investigation of the generated models (i.e., in terms of Petri net graphs), a guideline can be developed and used in order to improve the overall performance of the medical process. Moreover, any inconsistency (or violation of the rules) between the pre-defined Master Model and the simulated/resulted workflow model, which is obtained based on the log file history, can be easily detected and recognized using the proposed approach in this research. The results of the study showed that there is a significantly high delay in waiting time between the activities “treatment” and “payment prior to medication dispense”. These findings can be studied and used by the hospital administrators and staff (or any other entity in charge of the customer service ward) so as to address and solve the existing problems (and bottlenecks) leading to a better service performance of the hospital.
การใช้เทคนิค Transition Systems เพื่อวิเคราะห์และศึกษาขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาล / Using Transition Systems and Regions to Analyze and Monitor Admission Procedures of a Hospital
Master of Science in Information Technology, Siam University, Bangkok, Thailand
Related by Advisor
- การทำเหมืองกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่การจัดกิจกรรมพิเศษผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารโดยใช้ Fuzzy Miner
- การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นตอนการรักษาพยาบาลด้วย Conformance checking
- การประยุกต์ใช้ Inductive visual miner ในการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการทำหัตถการ
- การปรับปรุงขั้นตอนการรักษาพยาบาลด้วย Repair Model
- การศึกษาเพื่อการตรวจสอบระยะเวลาในการทำงานของศูนย์ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ทางโทรศัพท์โดยใช้ Fuzzy Miner และ Transition Systems