ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความภักดีในพรรคการเมืองผ่านการเลือกตั้ง ปีพ.ศ. 2566 กรณีศึกษาพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความภักดีทางการเมืองในพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ผ่านสามกลุ่มตัวแปรหลัก ได้แก่ ปัจจัยด้านการเมืองภายในประเทศ ปัจจัยด้านการตลาดทางการเมือง และปัจจัยด้านการสื่อสารทางการเมือง งานวิจัยใช้ระเบียบวิธีแบบผสานวิธี โดยเริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณผ่านแบบสอบถามที่สุ่มจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยวิธีสุ่มแบบมีความน่าจะเป็น และแบบแบ่งชั้น ก่อนเลือกกลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพ
ในส่วนของการวิเคราะห์เชิงสถิติ ใช้สถิติเชิงพรรณนา (ความถี่ ร้อยละ) เพื่ออธิบายลักษณะกลุ่มตัวอย่าง และสถิติเชิงอนุมาน เช่น การวิเคราะห์ถดถอยพหุ และสมการเชิงโครงสร้าง (SEM) เพื่อทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างตัวแปรหลักกับความภักดีทางการเมือง ผลวิเคราะห์ SEM ยังช่วยประเมินผลกระทบของแต่ละปัจจัยอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ
ผลการวิจัยพบว่า ทั้งสามกลุ่มปัจจัยมีอิทธิพลต่อความภักดีทางการเมือง ปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศมีผลโดยตรงต่อการรับรู้และการตัดสินใจเลือกพรรค ขณะที่กลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารช่วยเสริมการรับรู้ การมีส่วนร่วม การสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การเข้าร่วมกิจกรรม และการเผยแพร่ข้อมูลทางสาธารณะ ผลเหล่านี้สะท้อนภาพพฤติกรรมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกลุ่มเมืองใหญ่ได้อย่างลึกซึ้ง การวิเคราะห์ SEM ยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงเชิงโครงสร้างระหว่างตัวแปรที่ซับซ้อน และชี้ทิศทางเชิงนโยบายที่สามารถใช้ในการเสริมสร้างความภักดีและความมั่นคงของกระบวนการทางการเมืองในระยะยาว

คำสำคัญ: ความภักดีในพรรคการเมือง, พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, การเลือกตั้งปี พ.ศ. 2566

Abstract

This study aims to analyze the factors influencing political loyalty toward the Move Forward Party and the Pheu Thai Party, focusing on three main variable groups: domestic political factors, political marketing factors, and political communication factors. The research adopts a mixed methods approach, beginning with the collection of quantitative data through questionnaires distributed to eligible voters in Bangkok and its metropolitan areas. The sampling was conducted using probability sampling and stratified sampling methods, followed by the selection of qualitative samples for in-depth analysis.
Quantitative data were analyzed using descriptive statistics (e.g., frequencies and percentages) to profile the sample, while inferential statistics—such as multiple regression and structural equation modeling (SEM)—were used to test causal relationships between the key factors and political loyalty. SEM further evaluated the impact of each factor in detail and with precision.
Results showed that all three groups of factors significantly influenced political party loyalty. Domestic political factors had a direct effect on voters’ perceptions and party choice decisions, while political marketing and communication strategies enhanced recognition, participation, financial support, event attendance, and information dissemination. These findings offered deep insights into the behavior of urban voters. SEM also revealed complex structural connections among variables and pointed toward policy directions that could strengthen political loyalty and the stability of democratic processes in the long term.

Keywords: political party loyalty, Move Forward Party, Pheu Thai Party, 2023 general election

6519400001, นายอธิพัฒน์ วรนิธิภาคย์, Mr. Athiphat Voranithipak, Advisor: ผศ. ดร.ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร – Asst. Prof. Dr. Chanchai Chitrlaoarporn, บทความ (Paper), ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความภักดีในพรรคการเมืองผ่านการเลือกตั้ง ปีพ.ศ. 2566 กรณีศึกษาพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย Factors Influencing Political Party Loyalty Through the 2023 Election: A Case Study of the Move Forward Party and the Pheu Thai Party, ตีพิมพ์ในวารสาร (Journal Name), วารสารวิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์, ปริญญาเอก (Doctorate Degree), บัณฑิตวิทยาลัย (Graduate School), รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง – Doctor of Political Science Program in Government, ร.ด. (การปกครอง) – D.Pol.Sc. (Government), Siam University, Bangkok, Thailand – มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

Online Publication Date 1/7/2025, 14:15:49