แนวทางพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตกรุงเทพมหานคร

Last modified: October 24, 2025
You are here:
  • KB Home
  • _*Pending
  • แนวทางพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตกรุงเทพมหานคร
Estimated reading time: 2 min
Title: Guidelines for Developing the Use of Information Technology in Academic Administration of Private Schools at the Basic Education Level in Bangkok
ชื่อโครงการ: แนวทางพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตกรุงเทพมหานคร
Author: Miss Sarlilpak Uasuwonkul
ชื่อผู้วิจัย: นางสาวสลิลภัคร์ เอื้อสุวรรกูล
Advisor: ดร.ลิขิตกุล กุลรัตนรักษ์ – Dr. Likitkul Kulrattanarak
Degree: ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำและนวัตกรรมการบริหารการศึกษา – Master of Education Program in Leadership and Innovation in Educational Administration
Major: ศษ.ม. (ภาวะผู้นำและนวัตกรรมการบริหารการศึกษา) – M.Ed. (Leadership and Innovation in Educational Administration)
Faculty: บัณฑิตวิทยาลัย (Graduate School)
Academic year: 2568 (2025)
Published: นำเสนอในที่ประชุมวิชาการ (Conference) The 18th National and International Academic Conference “Sustainable Horizon: Transforming Ideas into Impact” 6-7 August 2025 (pp.127-140)  Click   PDF

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ ของโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาแนวทาง พัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้น พื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชนระดับการศึกษาขั้น พื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยกาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยเทียบสัดส่วนกับตารางของ Krejcie & Morgan (1970) ที่ค่าความเชื่อมั่น 95% ได้กลุ่มตัวอย่างจานวน 376 คนจากโรงเรียน ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ และได้รับข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 341 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม ซึ่งได้ค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 และแบบ สัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณคือ ค่าเฉลี่ยและร้อยละ ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้ การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนเอกชนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานครวิเคราะห์จากการบริหารงานวิชาการ 8 ด้าน พบว่าด้านที่ มีระดับของสภาพปัญหามากที่สุดคือด้านการแนะแนว รองลงมาคือด้านการประกันคุณภาพ ด้านการ พัฒนาสื่อเทคโนโลยี ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพ และด้านการวางแผนด้านวิชาการ ตามลาดับ สาหรับด้านการจัดการเรียนการสอน การนิเทศ และการวัดผลและประเมินผล สภาพปัจจุบันมีค่า มากกว่าสภาพปัญหา สาหรับผลการสัมภาษณ์ แนวทางการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ การบริหารงานวิชาการ พบว่า การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเชิงบูรณาการเป็นปัจจัยหลักในการ ขับเคลื่อนประสิทธิภาพงานวิชาการ ระบบฐานข้อมูลควรเชื่อมโยงข้อมูลสาคัญเพื่อให้สามารถใช้ใน การวิเคราะห์และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยา นอกจากนี้ควรเสริมสร้างสมรรถนะดิจิทัลของ บุคลากร โดยเน้นพัฒนาทักษะการประยุกต์ใช้เครื่องมือดิจิทัลในด้านการจัดการเรียนการสอน การวัด และประเมินผล ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพ การนิเทศ และการแนะแนว รวมถึงการทางาน ร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งควรลงทุนด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยจัดตั้งหน่วยสนับสนุน การผลิตสื่อดิจิทัล เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ครูสร้างสรรค์สื่อคุณภาพสูง และการบูรณาการเทคโนโลยีให้ เชื่อมโยงกับการดาเนินงานประกันคุณภาพอย่างเป็นระบบ กาหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน และใช้ข้อมูลเพื่อ ติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงคุณภาพการบริหารงานวิชาการอย่างสม่าเสมอ จะนาไปสู่การพัฒนา อย่างยั่งยืนของโรงเรียนเอกชน

คำสำคัญ: การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานวิชาการ, โรงเรียนเอกชนระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานคร


Abstract

This study aimed to investigate the use of information technology (IT) in the administration of academic affairs in private schools at basic education level in Bangkok and to explore approaches for enhancing the use of IT. The target population consisted of school administrators and teachers in private basic education institutions in Bangkok. The sample size was determined based on the Krejcie and Morgan (1970) table at a 95% confidence level, resulting in 376 participants from small, medium, large, and extralarge schools. A total of 341 valid responses were obtained. The research instruments included a questionnaire, with an overall reliability coefficient of 0.89, and an interview protocol. Quantitative data were analyzed using descriptive statistics including mean and percentage. Qualitative data from interviews with administrators were analyzed using content analysis. The analysis of IT utilization in academic administration across eight dimensions revealed that the area with the highest level of issues was guidance and counseling, followed by quality assurance, educational media development, research for educational quality, and academic planning, respectively. In contrast, the current conditions in teaching and learning management, supervision, and assessment and evaluation were found to be more favorable than problematic. Interviews revealed that developing an integrated database system is crucial for academic efficiency. Such database system should connect important data, enabling informed strategic decisions. It’s also vital to strengthen staff digital competencies in applying digital tools in various domains—teaching, assessment, research, supervision, and guidance—and foster collaboration via digital platforms. Achieving this requires investment in appropriate digital infrastructure and innovative learning media. Establishing media production support units can incentivize teachers to create quality content.

Keywords: Information Technology in Academic Administration, Private Schools, Basic Education, Bangkok


6417510011 สลิลภัคร์ เอื้อสุวรรกูล – Sarlilpak Uasuwonkul, Advisor: ดร.ลิขิตกุล กุลรัตนรักษ์ – Dr. Likitkul Kulrattanarak, วิทยานิพนธ์ (Thesis), Guidelines for Developing the Use of Information Technology in Academic Administration of Private Schools at the Basic Education Level in Bangkok, นำเสนอในที่ประชุมวิชาการ (Conference), The 18th National and International Academic Conference 2025, ปริญญาโท (Master’s Degree), บัณฑิตวิทยาลัย (Graduate School), ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำและนวัตกรรมการบริหารการศึกษา – Master of Education Program in Leadership and Innovation in Educational Administration, ศษ.ม. (ภาวะผู้นำและนวัตกรรมการบริหารการศึกษา) – M.Ed. (Leadership and Innovation in Educational Administration), Siam University, Bangkok, Thailand – มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

Tags:
Was this article helpful? บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?
ไม่ / Dislike 0
Views: 6
Facebook
Twitter
LinkedIn
WhatsApp
Email
Print

QR code for article

QR Code